Cloud computing

การนำเอานวัตกรรมด้าน Cloud Computing มาใช้ในงานด้านการบริหารจัดการอุตสาหกรรมในยุค Thailand 4.0

การนำเอานวัตกรรมด้าน Cloud Computing มาใช้ในงานด้านการบริหารจัดการอุตสาหกรรมในยุค Thailand 4.0

อุตสาหกรรม 4.0 - วิกิพีเดีย
 
 

ในยุคปัจจุบันที่การแข่งขันสูงมาก การเข้าสู่ตลาดไม่ว่าจะเป็นในด้านใด สามารถทำได้ง่ายไร้ซึ่งข้อจำกัดหลายๆประการดังเช่นสมัยก่อน เนื่องจากความสามารถในการเข้าถึงเทคโนโลยีของบุคคลทำได้ง่ายขึ้น โมเดลในธุรกิจทุกวันนี้หลายๆกิจการจึงเปลี่ยนมาเป็นการทำให้น้อยแต่ได้ผลมาก และการนำนวัตกรรมมาใช้งานได้อย่างเหมาะสม โดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรมจะต้องถูกขับเคลื่อนไปด้วยเทคโนโลยี ความคิดสร้างสรรค์ และนวัตกรรม  

 
 

 

ดังนั้นในด้านของระบบผลิตในภาคอุตสาหกรรม การนำระบบสาระสนเทศในการบริหารองค์กรบนระบบ Cloud (Cloud Based ERP ) จึงนับเป็นสิ่งที่จำเป็นในอันดับต้นๆในการปรับตัวขององค์กร เพื่อประโยชน์ในด้านการบริหารต้นทุน และ การวางแผนจัดการการผลิตให้สามารถผลิตสินค้าได้ทันเวลาและและดูคุณภาพของสินค้าได้ทันที และติดตามด้านการเงินการบัญชี ตลอดจนขั้นตอนในการขายทั้งออนไลน์และออฟไลน์ เช่นเดียวกัน ในระบบ Cloud Based ERP จะประกอบไปด้วยส่วนงาน การขาย(Sale) การจัดซื้อ(Purchase) การควบคุมคลังสินค้า (Inventory) การผลิต (Production) การเงินรับชำระและจ่ายชำระ (Financial- Receive/Payment) การบัญชีและภาษีอากร( Accounting @ Tax) โดยที่ระบบจะทำงานผสานกัน เช่น ฝ่ายขายอาจจะอยู่ที่บริษัทลูกค้าและทำการออกใบเสนอราคาจากนั้นทำการ Order จากลูกค้า ฝ่ายขายเช็ค stock โดยหากในคลังมีสินค้าอยู่แล้วฝ่ายขายจะทำการจองสินค้าเพื่อขายแต่หากไม่มีของใน Stock ฝ่ายขายจะทำการแจ้งให้ฝ่ายผลิตไปทำการผลิตสินค้า จากนั้นฝ่ายผลิตจะทำการรวบรวม Order มาเพื่อทำการสั่งผลิต เช่นเดียวกับฝ่ายวางแผนวัตถุดิบว่าในปัจจุบันวัตถุดิบคงคลังเหลือเพียงพอผลิตหรือไม่ จะต้องสั่งซื้อกับ supplier มาเพิ่มจำนวนเท่าใด และ ฝ่ายวางแผนกำลังการผลิต จะต้องตรวจเช็คว่าเครื่องจักรสามารถรับกำลังการผลิตได้มากน้อยแค่ไหนในการผลิตให้ทันเวลา จากนั้นในขั้นตอนระหว่างการผลิตฝ่ายควบคุมคุณภาพจะต้องคอยตรวจสอบว่าจำนวนของเสียที่เกิดขึ้นมากน้อยแค่ไหน เพื่อบันทึกเป็นประสิทธิภาพของกระบวนการการผลิต จนกระทั่งผลิตเสร็จจึงรับเข้าสู่คลังสินค้าสำเร็จรูปรอการออกใบส่งไปให้กับลูกค้าอีกทีนึง

 
 

 

 

ในระบบ ERP จะเริ่มจับกระบวนการตั้งแต่การเปิดรับ Order จากลูกค้าและนำไปเปิดใบแจ้งผลิตให้ฝ่ายผลิตเปิด Job งาน โดยที่จะต้องมีการ Set Up สินค้าสำเร็จรูปจะต้องมีสูตรการผลิต และ ต้องมีการกำหนดขั้นตอน พร้อมด้วยเครื่องจักรที่จะใช้ในการผลิตลงในระบบ จากนั้นทันทีที่มีการบันทึกรับ Order เข้ามาระบบจะทำการคำนวณหาสินค้าที่จะต้องสั่งซื้อมาใน Stock ให้อัตโนมัติ เพื่อให้ฝ่ายจัดซื้อออกใบสั่งซื้อไปยัง Supplier จากนั้นฝ่ายผลิตจะทำการออกใบ Job Order หรือใบสั่งผลิต เพื่อเป็นตัวตั้งต้นการทำงาน และ ทำการเบิกวัตถุดิบเพื่อทำการผลิต ในระหว่างการผลิตระบบจะทำการเก็บข้อมูลสินค้าระหว่างผลิตในแต่ละกระบวนการว่า สินค้าที่ดีและเสียจำนวนเท่าไหร่ จนกระทั่งผลิตเสร็จ ในระบบจะทำการให้ฝ่ายคลังทำการบันทึกรับสินค้าสำเร็จรูปเพื่อเก็บเข้าสู่คลังสินค้าสำเร็จรูป พร้อมด้วยต้นทุนการผลิตเข้ามาในตัวสินค้า ก่อนจะนำไปส่งมอบ อย่างไรในกระบวนการการส่งมอบโดยปกติแล้วในโรงงานจะมีรถส่งของของตนเอง ดังนั้นในระบบ ERP จึงมีระบบการจัดรถขนส่งเพื่อให้ฝ่ายจัดรถระบุรถให้ไปส่งกับลูกค้าได้

 

โดยในระหว่างที่มีการออกบิลขายตัวระบบเก็บต้นทุนขายในแต่ละบิล ทำให้ผู้ใช้งานสามารถทราบถึงกำไรขาดทุนเบื้องต้นต่อบิลได้ในทันที จากนั้นจะเป็นขั้นตอนในการวางบิลเก็บเงิน ออกใบเสร็จรับเงิน และ รับเงินเข้าระบบ ทั้งนี้ในระบบ ERP ประกอบด้วยส่วนงานบัญชี การเงิน ที่สามารถติดตามการรับชำระ ดูสถานบิลคงค้างที่ยังไม่ได้เก็บเงิน หรือ ดูว่าเช็คใบไหนที่ยังไม่ได้ขึ้นเงินบ้างได้

 

 

 

นอกเหนือจากนี้ในระบบ AccCloud  ยังมีระบบเสริมการทำงานอีกหลายส่วนเช่น ระบบ Warehouse Online, Point Of Sale , Production Tracking ,PO Online และ อื่นๆ ที่เป็นตัวเสริมเพื่อช่วยในการบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

 

อย่างไรก็ดี ระบบ ERP ที่ดีในยุคปัจจุบันจะต้องจำเป็นที่จะต้อง On Cloud เนื่องจากเรากำลังอยู่ในยุค Thailand 4.0 ที่ทุกสิ่งอย่างจะต้องเชื่อมโยงเป็นสิ่งเดียวกัน(Connectivity) ทำงานแบบพร้อมๆกัน (Collaboration) และ สามารถติดตามการทำงานได้อย่างในปัจจุบัน(Real Time) ซึ่งปัจจัยเหล่านี้จะส่งผลต่อการที่ผู้บริหารสามารถทราบถึงผลการทำงานและสามารถตัดสินใจ เช่นจะรับหรือไม่รับงาน จะตั้งราคาขายเท่าไหร่ หรือ จะดูว่าสินค้าที่ผลิตไปแล้วดีหรือเสียมากน้อยแค่ไหน และแน่นอนในยุคปัจจุบันธุรกิจจะเน้นแข่งขันกันที่เทคโนโลยี และเทคโนโลยีเป็นสิ่งที่ไม่ได้ไกลตัวอีกต่อไป ดังนั้นในวันใดที่คู่แข่งหรือ คู่ค้าของเรามีเทคโนโลยีที่สูงกว่า นั่นหมายถึงเขาสามารถบริหารจัดการได้ด้วยเครื่องมือที่ประสิทธิภาพสูงกว่า หากเราปรับตัวไม่ทันนั่นย่อมหมายถึงในอนาคตตัวของเราอาจจะไม่สามารถอยู่ในตลาดได้ในระยะยาว

 

www.acccloud.tech

ทำความรู้จักกับ Cloud Database คืออะไรกัน

 
 

ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับ คำว่า Database ก่อนว่ามันคืออะไร Database หรือ ฐานข้อมูล ก็คือ ระบบที่รวบรวมข้อมูลต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกันเข้าไว้ด้วยกันอย่างมีระบบมีความสัมพันธ์ระหว่างข้อมูลต่าง ๆ ที่ชัดเจน โดยในส่วนที่ใช้เก็บข้อมูล เพื่อใช้ในการค้นหา ให้มีการเข้าถึงข้อมูลส่วนกลางได้สะดวกรวดเร็ว ซึ่งข้อมูลจะถูกเก็บในรูปของ rows, columns และ tables โดยอาศัยดรรชนี (indexed) เพื่อให้สามารถค้นหาข้อมูลได้รวดเร็ว นอกจากนี้ยังสามารถทำการเพิ่ม (insert), ลด (delete) หรือ เปลี่ยนแปลง (update) ข้อมูลใหม่ได้อีกด้วย Database ถูกพัฒนาขึ้นมาตั้งแต่ปี 1960 ใช้ในการทหาร ในยุคแรกๆ ฐานข้อมูลเริ่มต้นจาก hierarchical และ network databases จนมาถึงปี 1980 มีการนำเอา object-oriented-databases (OODBMS) เราสามารถจัดแบ่งประเภทของ database ตามรูปแบบของชนิดข้อมูลได้ เช่น ตัวเลข,ตัวอักษร หรือ รูปภาพ บางครั้งก็อาจจะแบ่งตามความนิยมของ relational database เช่น distributed database, cloud database หรือ NoSQL database. เป็นต้น Relational database ถูกคิดค้นขึ้นโดย E.F. Codd (IBM) สร้างขึ้นมาจากกลุ่มของ table ที่มีข้อมูลภายในโดยแบ่งออกเป็นตามประเภทที่ตั้งไว้ แต่ละ table จะมีความสัมพันธ์กับ Table อื่นโดยผ่านคุณสมบัติของRelation keys ต่างๆ โดยที่เราจะใช้ภาษาโครงสร้าง (Structural Query Language, SQL) ในการเรียกข้อมูล Distributed database หมายถึงการใช้ฐานข้อมูลเดียวกันแยกกันเก็บในหลายๆที่ และนำมารวมกันผ่านระบบ Network

 

 

แล้ว Cloud Database ล่ะคืออะไร Cloud database เป็นฐานข้อมูลแบบใหม่ ที่ถูกปรับปรุงและสร้างขึ้นบนระบบ virtualized แบบเดียวกับ hybrid cloud, public cloud หรือ private cloud โดยเราสามารถขยายขนาดเพิ่มขึ้น หรือ ปรับแต่ง resource ได้ตลอดเวลา ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ใช้งาน ส่วน NoSQL database NoSQL database ถูกใช้ในรูปแบบ ที่เป็นการกระจายของข้อมูล จึงมีประสิทธิ์ภาพสูงสำหรับข้อมูลขนาดใหญ่ (big data) เพราะ relational database ไม่ถูกออกมาให้รอบรับข้อมูลขนาดใหญ่ จึงนิยมใช้กับการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ที่ไม่ค่อยมีรูปแบบตายตัว

 
 

โปรแกรมบัญชี AccCloud ใช้ระบบฐานข้อมูลแบบ Cloud 100% ดังนั้นจึงรองรับผู้ใช้งานได้จำนวนมากและมีความเสถียร กว่าระบบอื่นๆ โดยเฉพาะระบบบัญชีบน Windows ทั่วๆไป

 
 
 

หากคุณมีความสนใจที่จะเข้าใช้งานโปรแกรมบัญชี คลิ๊ก เข้าสู่ระบบ Accloud

และสามารถติดตามข้อมูลเกี่ยวกับโปรแกรมบัญชี Accloud ได้ที่ : www.acccloud.tech

 

บทความที่เกี่ยวข้อง

 

 

 

มารู้จักความแตกต่างระหว่างเทคโนโลยี VDI และ Cloud กัน

Virtual Desktop Infrastructure (VDI) จะคล้ายๆกับ Remote Desktop (หรือ การ Remote ผ่าน internet เข้าไปใช้งานเครื่อง คอมพิวเตอร์ต่างๆ แต่ VDI จะต่างออกไป ตรงต้องมี Virtualization host เช่น VMware ซึ่งติดตั้ง Virtual Machine(VM) จำนวนมากเอาไว้ จากนั้น user ก็จะ connect มาที่ VM เหล่านั้นผ่านทาง Remote Desktop และก็เหมือน Remote Desktop คืออาจมาจากหลายทางก็ได้ไม่ว่าจะเป็น Client OS, thin client หรือ mobile device จากนั้นเมื่อ user connect ได้แล้วก็จะ สามารถใช้งาน application ไว้ว่าจะเป็น Microsoft Office หรือ business application ต่างๆ

 
 
 

อ่านข้อแตกต่างด้านบนแล้ว แต่ละคนคงคิดว่าอย่างนี้ก็ย้ายไปใช้ VDI เลยไม่ดีกว่าหรือ

เพราะ VDI ก็ทำได้ทุกอย่างที่ Remote Desktop ทำได้ แต่ อย่าลืมข้อสำคัญมากกกกกกกก อีกอย่างที่มองข้ามไม่ได้ก็คือ VDI ส่วนใหญ่จะมีราคาสูงกว่า Remote Desktop มากกกกกกกกก นอกจากนี้ยังมีค่า license และเนื่องจาก technology ที่ต่างกัน

ดังนั้นในปัจจุบัน Application หรือโปรแกรม โดยเฉพาะโปรแกรมบัญชีที่บน windows ที่อ้างว่าตนเองขึ้น Cloud ได้ นั่นเป็นเพราะ ตัวโปรแกรมเขาเอาไปขึ้น VDI จึงทำให้ค่าใช้จ่ายรายเดือนของโปรแกรมแพงขึ้นแบบหนักหนาสาหัสมาก และไม่คุ้มต่อการลงทุนด้วยเหตุผลทั้งปวง

 

ในยุคอนาคต การที่ใช้โปรแกรมแบบติดตั้งจะค่อยๆหมดไป เนื่องจาก เทคโนโลยีไม่อำนวย การที่จะไปดึงเทคโนโลยีขั้นสูงมาใช้ เพื่ออุ้มเทคโนโลยีขั้นต่ำ นั่นหมายถึงต้นทุนการดำเนินงานของเราจะสูงขึ้นไปด้วย โดยใช่เหตุ

ดังนั้น หากท่านต้องการจะปรับเปลี่ยน องค์กร หรือ หันมาใช้เทคโนโลยีที่เข้ามาช่วยบริหารจัดการองค์กรในระยะยาว

 

ใช้เทคโนโลยีที่เป็นปัจจุบัน ที่สอดคล้องกับการเติบโตของโลกในอนาคตเถอะครับ

ส่วน Cloud Base Application คือ โปรแกรมที่ฝังตัวอยู่บน web site ไม่จำเป็นต้องมาสร้างห้องเพื่อทำ Remote ของ แต่ละผู้ใช้งานซึ่งสิ่งที่จะได้คือ ต้นทุนที่ประหยัดกว่าเนื่องจากเป็น Eco-System

 

โปรแกรมบัญชี AccCloud เป็นโปรแกรมบัญชีที่ ทำงานบน Cloud 100% ทำให้ต้นทุนของระบบราคาถูกกว่า VDI ฺเยอะมากกกกก และ ไม่จำเป็นต้องลงโปรแกรม หรือติดตั้งโปรแกรมที่เครื่องใดๆทั้งสิ้น นอกจากนั้น Function การทำงานยังไม่แพ้โปรแกรมบัญชีทุกโปรแกรม windows base ด้วยเช่นกัน

 

 

Education Template

Scroll to Top