ร้านค้าออนไลน์

ข้อดีของการเชื่อมต่อโปรแกรมบัญชีกับ Shopee Lazada

การตลาดออนไลน์บน Marketplace ได้กลายเป็นเส้นทางที่สำคัญในการขายสินค้าและบริการในยุคปัจจุบัน กับการเชื่อมโยงแพลตฟอร์มออนไลน์ เช่น Shopee และ Lazada กับโปรแกรมบัญชี มีประโยชน์มากมายที่น่าสนใจทั้งสำหรับธุรกิจขนาดใหญ่และเล็ก นี้คือข้อดีหลักๆ ที่ผู้ประกอบการสามารถเพลิดเพลินไปกับการเชื่อมต่อ

ประโยชน์ของการเชื่อมต่อโปรแกรมบัญชีกับ Shopee และ Lazada

1. ความสะดวกในการบันทึกข้อมูล การเชื่อมต่อโปรแกรมบัญชีกับโปรแกรม Shopee หรือ Lazada จะช่วยลดภาระการบันทึกข้อมูลที่ต้องทำด้วยมือ เนื่องจากข้อมูลการขายและการเงินจะถูกส่งอัตโนมัติไปยังระบบบัญชี ทำให้ลดความผิดพลาดและประหยัดเวลาในกระบวนการบัญชี

2. การจัดการสต็อกอัตโนมัติ การเชื่อมต่อระหว่างแพลตฟอร์ม Marketplace และโปรแกรมบัญชีช่วยให้ธุรกิจสามารถติดตามสต็อกสินค้าได้อย่างอัตโนมัติ และถจัดการสินค้าให้เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

3. การบริหารจัดการบัญชีอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้ธุรกิจสามารถตรวจสอบรายได้และค่าใช้จ่ายอย่างรวดเร็วและอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การตรวจสอบใบกำกับภาษีและการจัดทำรายงานการเงิน

4. ความน่าเชื่อถือของข้อมูล เพราะการทำงานด้วยการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างแพลตฟอร์ม Shopee หรือและโปรแกรมบัญชีช่วยลดความผิดพลาดที่เกิดขึ้นจากการป้อนข้อมูลด้วยมือ ทำให้มั่นใจได้ในความถูกต้องและข้อมูลจะมีความน่าเชื่อถืออย่างมาก

5. การวางแผนการเติบโต โปรแกรมบัญชีช่วยให้ธุรกิจสามารถวิเคราะห์ข้อมูลการขายและการเงินได้อย่างสมบูรณ์ เช่น การตรวจสอบรายได้จากแต่ละแพลตฟอร์ม และปรับแผนการขายหรือการจัดการการเงินต่อไปอย่างมีประสิทธิภาพ

การเชื่อมต่อโปรแกรมบัญชีกับโปรแกรม Shopee และ Lazada เป็นเครื่องมือที่สำคัญในการทำธุรกิจออนไลน์ให้มีประสิทธิภาพและมีความสามารถในการแข่งขันอย่างมีประสิทธิภาพในตลาดที่เติบโตอย่างรวดเร็วในปัจจุบันและอนาคต พร้อมทั้งยังอำนวยความสะดวก ลดขั้นตอนการทำงาน และป้องกันข้อผิดพลาด ได้เป็นอย่างดี

โปรแกรมบัญชี AccCloud เป็นโปรแกรมที่มีคุณสมบัติเหมาะกับโปรแกรม Shopee Lazada เป็นโปรแกรมระดับ ERP แต่ราคาระดับโปรแกรมบัญชีทั่วไป เหมาะกับองค์กรขนาดกลาง-ใหญ่ ร้านค้าออนไลน์ และแบบฟอร์มเอกสารสำหรับยื่นสรรพากรที่เพรียบพร้อม เลือกเข้าชมบริการเพิ่มเติมได้ที่ โปรแกรมบัญชี AccCloud

บัญชีหลังบ้าน Shopee สามารถเชื่อมเข้าระบบโปรแกรมบัญชีได้ไหม

เป็นเจ้าของธุรกิจออนไลน์ในยุคนี้ ย่อมต้องเผชิญกับความท้าทายหลากหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการบริหารสต็อกสินค้า การจัดการออเดอร์ หรือแม้แต่การติดตามรายรับ-รายจ่าย ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นงานหลังบ้านที่ต้องจัดการอย่างเป็นระบบ เพื่อให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน

ความสามารถของบัญชีหลังบ้าน Shopee

บัญชีหลังบ้าน Shopee เป็นระบบที่ช่วยให้ผู้ขายสามารถจัดการข้อมูลการขาย รายรับ-รายจ่าย และการชำระเงินได้อย่างครบถ้วน โดยมีฟังก์ชันหลักๆ ดังนี้

  • ติดตามสถานะคำสั่งซื้อและการชำระเงิน
  • ตรวจสอบรายการรายรับ-รายจ่ายประจำวัน
  • ดาวน์โหลดรายงานการขายและการเงินในรูปแบบ Excel
  • ตั้งค่าการชำระเงินและการจัดส่งสินค้า

แต่เมื่อพูดถึงการจัดการบัญชีและการเงิน คุณอาจสงสัยว่า โปรแกรมบัญชี Shopee สามารถเชื่อมต่อเข้ากับระบบโปรแกรมบัญชี ได้หรือไม่ คำตอบคือ “ได้” 

ประโยชน์ของการเชื่อมต่อบัญชีหลังบ้าน Shopee เข้ากับโปรแกรมบัญชี

1. ความสะดวกในการติดตามข้อมูลทางการเงิน 

การเชื่อมต่อบัญชีหลังบ้าน Shopee เข้ากับโปรแกรมบัญชี ช่วยให้คุณสามารถรวบรวมข้อมูลการขาย รายรับ-รายจ่าย และสถานะทางการเงินของธุรกิจเข้าไว้ในระบบเดียวกัน ทำให้การติดตามและวิเคราะห์ข้อมูลเป็นไปอย่างรวดเร็วและแม่นยำ

2. การบริหารจัดการสต็อกสินค้าที่มีประสิทธิภาพ 

เมื่อข้อมูลการขายจาก Shopee ถูกบันทึกอัตโนมัติลงในโปรแกรมบัญชี คุณจะสามารถติดตามยอดขายและสต็อกสินค้าได้อย่างแม่นยำ ช่วยให้การสั่งซื้อสินค้าเป็นไปอย่างเหมาะสม ลดปัญหาสินค้าขาดมือหรือล้นสต็อก

3. การจัดทำรายงานและการวิเคราะห์ข้อมูลที่ละเอียดขึ้น 

ข้อมูลการขายและการเงินที่ถูกรวบรวมในโปรแกรมบัญชี จะช่วยให้คุณสามารถจัดทำรายงานและวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกได้อย่างละเอียดและแม่นยำ เพื่อนำมาใช้ในการตัดสินใจและวางแผนธุรกิจต่อไป

วิธีการเชื่อมต่อบัญชีหลังบ้าน Shopee เข้ากับโปรแกรมบัญชี AccCloud

1. เข้าสู่ระบบ AccCloud

2. เลือกเมนู > Extension > eCommerce Platform

3. เลือกเมนู Shopee > จัดการร้านค้า > เพิ่มร้านค้า แล้วเข้ารหัสหลังบ้านของ Shopee ได้เลย

หรือจะเชื่อมต่อบัญชีหลังบ้าน Shopee ก่อนเชื่อมกับโปรแกรมบัญชี AccCloud ก้ได้เช่นกัน โดยคุณสามารถทำตามขั้นตอนดังนี้

  • เข้าสู่ระบบ Shopee Seller Center และไปที่เมนู “บัญชีหลังบ้าน”
  • เลือก “เชื่อมต่อกับโปรแกรมบัญชี” และเลือกโปรแกรมบัญชีที่คุณใช้งานอยู่
  • ทำตามขั้นตอนการเชื่อมต่อที่แสดงบนหน้าจอ โดยทั่วไปจะต้องใส่ข้อมูลการเชื่อมต่อ เช่น URL, API Key หรือ Token
  • หลังจากเชื่อมต่อสำเร็จ ข้อมูลการขายจาก Shopee จะถูกส่งไปยังโปรแกรมบัญชี AccCloud โดยอัตโนมัติ

อย่างไรก็ตาม หากต้องการความสะดวกและประสิทธิภาพสูงสุด ผู้ขายอาจพิจารณาใช้โปรแกรมบัญชีที่มีการใช้ระบบเชื่อมโยงข้อมูล API กับ Shopee โดยตรง เช่น AccCloud ซึ่งสามารถซิงค์ข้อมูลการขายและการเงินจาก Shopee เข้าสู่ระบบบัญชีได้อย่างอัตโนมัติ ช่วยให้ผู้ขายสามารถจัดการบัญชีได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ

ดังนั้น โปรแกรมบัญชี Shopee เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้ขายสามารถจัดการข้อมูลการขายและการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถเชื่อมต่อกับระบบโปรแกรมบัญชีต่างๆ ได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความเข้ากันได้ของโปรแกรมบัญชีที่ใช้งานอยู่ ดังนั้น ผู้ขายที่ต้องการความสะดวกและความแม่นยำสูงสุด อาจพิจารณาใช้โปรแกรมบัญชีที่มีการเชื่อมต่อกับ Shopee โดยตรง เพื่อให้การจัดการบัญชีเป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ

หากต้องการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเชื่อมต่อบัญชีหลังบ้าน Shopee เข้ากับโปรแกรมบัญชี คุณสามารถเข้าชมเว็บไซต์ AccCloud.tech ได้ที่นี่

แนะนำ 4 แพลตฟอร์มสำหรับเริ่มต้นขายของออนไลน์

ในปัจจุบัน การขายของออนไลน์เป็นช่องทางการทำธุรกิจที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เนื่องจากมีต้นทุนต่ำ เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้กว้างขวาง และสามารถขยายตลาดได้อย่างรวดเร็ว สำหรับผู้เริ่มต้นขายของออนไลน์ การเลือกแพลตฟอร์มที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญ เพราะจะช่วยให้สามารถเริ่มต้นธุรกิจได้ง่ายขึ้น และประสบความสำเร็จได้อย่างรวดเร็ว

สำหรับแพลตฟอร์มขายของออนไลน์ที่ได้รับความนิยมในประเทศไทย มีดังนี้

1. Facebook Marketplace

Facebook Marketplace เป็นแพลตฟอร์มขายของออนไลน์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในประเทศไทย เนื่องจากมีผู้ใช้งาน Facebook เป็นจำนวนมาก ใช้งานง่าย และไม่มีค่าใช้จ่ายในการเปิดร้านค้า

2. Instagram Shop

Instagram Shop เป็นแพลตฟอร์มขายของออนไลน์ที่ได้รับความนิยมรองลงมาจาก Facebook Marketplace เนื่องจากผู้ใช้งาน Instagram นิยมใช้เพื่อติดตามข่าวสารและความบันเทิง จึงมีโอกาสที่จะเห็นร้านค้าของผู้ประกอบการมากขึ้น

3. LINE Shopping

LINE Shopping เป็นแพลตฟอร์มขายของออนไลน์ที่ได้รับความนิยมในกลุ่มคนรุ่นใหม่ เนื่องจากผู้ใช้งาน LINE นิยมใช้เพื่อติดต่อสื่อสารและสั่งซื้อสินค้าผ่าน LINE

4. Shopee/lazada /tiktok 

Shopee, Lazada และ TikTok Shop เป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในประเทศไทย โดย Shopee ครองส่วนแบ่งตลาดสูงสุด ตามมาด้วย Lazada และ TikTok Shop ตามลำดับ

Shopee เป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในประเทศไทย โดยมีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ประมาณ 60% ของตลาดอีคอมเมิร์ซทั้งหมด Shopee ได้รับความนิยมเนื่องจากมีจุดแข็งในด้านต่างๆ ดังนี้

  • มีผู้ใช้งานจำนวนมาก โดย ณ เดือนตุลาคม 2566 มีผู้ใช้ Shopee ในประเทศไทยมากกว่า 60 ล้านคน
  • มีโปรโมชั่นและกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง
  • ใช้งานง่าย และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้กว้างขวาง

Lazada เป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่ได้รับความนิยมรองลงมา โดยมีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ประมาณ 30% ของตลาดอีคอมเมิร์ซทั้งหมด Lazada ได้รับความนิยมเนื่องจากมีจุดแข็งในด้านต่างๆ ดังนี้

  • มีผู้ใช้งานจำนวนมาก โดย ณ เดือนตุลาคม 2566 มีผู้ใช้ Lazada ในประเทศไทยมากกว่า 50 ล้านคน
  • มีสินค้าหลากหลายประเภทให้เลือกสรร
  • ให้บริการจัดส่งสินค้าที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

TikTok Shop เป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซน้องใหม่ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว โดยมีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ประมาณ 10% ของตลาดอีคอมเมิร์ซทั้งหมด TikTok Shop ได้รับความนิยมเนื่องจากมีจุดแข็งในด้านต่างๆ ดังนี้

  • เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่
  • เน้นการซื้อขายสินค้าผ่านวิดีโอแบบไลฟ์สด
  • มีโปรโมชั่นและกิจกรรมส่งเสริมการขายที่ดึงดูดใจ

สำหรับผู้ประกอบการที่เริ่มต้นขายของออนไลน์ สามารถเลือกแพลตฟอร์มที่เหมาะสมกับสินค้าและกลุ่มเป้าหมายของตนเอง โดยพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ ได้เลย

รู้จักฐานข้อมูล Big Data ตัวช่วยธุรกิจ Marketplace Online

ฐานข้อมูลของ Big Data แปลตรงตัวก็คือฐานข้อมูลใหญ่ หรือฐานข้อมูลที่มีขนาดใหญ่ เกิดจากยุคก่อนๆ ที่ธุรกิจส่วนใหญ่ใช้วิธีการบันทึกข้อมูลด้วยการจดหรือ Mannual เพราะยังไม่มีระบบคลาวด์ออนไลน์ ทำให้หาข้อมูลก็ยาก และยังเสี่ยงต่อข้อมูลเสียหายหรือสูญหายอย่างมาก แต่หลังจากโลกของเราเข้าสู่ยุคดิจิตัล Big Data ก็กลายมาเป็นพื้นที่จัดเก็บข้อมูลที่มีขนาดใหญ่พร้อมเก็บข้อมูลไว้ได้อย่างมากมายมหาศาล ทำให้ธุรกิจไม่ว่าจะเล็ก กลาง หรือใหญ่ ก็สามารถใช้งาน Big Data ได้

ฐานข้อมูล Big Data มีข้อดียังไง 

  • ฐานข้อมูล Big Data สามารถรองรับได้ทั้งข้อมูลแบบโครงสร้าง (structured data) เช่น ข้อมูลตัวเลข ข้อมูลตัวอักษร และข้อมูลแบบไม่มีโครงสร้าง (unstructured data) เช่น ข้อมูลภาพ ข้อมูลเสียง ข้อมูลวิดีโอ
  • ช่วยให้องค์กรตัดสินใจได้อย่างแม่นยำ การวิเคราะห์ข้อมูลจากฐานข้อมูล ทำให้องค์กรเข้าใจพฤติกรรมของลูกค้า แนวโน้มของตลาด และสถานการณ์ต่างๆ ได้ดีขึ้น ซึ่งช่วยให้องค์กรสามารถตัดสินใจได้อย่างแม่นยำและทันต่อเหตุการณ์
  • สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานขององค์กร เช่น การปรับปรุงกระบวนการผลิต การลดต้นทุน และการเพิ่มยอดขาย จากผลของการวิเคราะห์ข้อมูล
  • วิเคราะห์การแข่งขันขององค์กรที่ใช้ฐานข้อมูล Big Data ได้อย่างมีประสิทธิภาพ วัดความได้เปรียบในการแข่งขันกับคู่แข่ง เนื่องจากสามารถมองเห็นภาพรวมของตลาดและแนวโน้มต่างๆ ได้ดีกว่า

ฐานข้อมูล Big Data กับ Marketplace Online

Big Data เป็นแหล่งรวบรวมข้อมูลขนาดใหญ่และหลากหลาย เช่น ข้อมูลพฤติกรรมลูกค้า ข้อมูลสินค้าและบริการ ข้อมูลสถิติการตลาด เป็นต้น ซึ่งข้อมูลเหล่านี้สามารถนำมาใช้เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของ Marketplace Online ในด้านต่างๆ ดังนี้

Personalization 

ช่วยให้เข้าใจพฤติกรรมของลูกค้าแต่ละรายได้ดีขึ้น ซึ่งช่วยให้ Marketplace Online สามารถนำเสนอสินค้าและบริการที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าแต่ละรายได้มากขึ้น เช่น การแนะนำสินค้าที่เกี่ยวข้อง การเสนอโปรโมชั่นที่ตรงกับความสนใจของลูกค้า เป็นต้น

Recommendation

การแนะนำสินค้าและบริการที่ตรงกับความสนใจของลูกค้าได้ ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าสามารถค้นพบสินค้าและบริการที่ตรงกับความต้องการได้ง่ายขึ้น เช่น การแนะนำสินค้าตามประวัติการซื้อสินค้า การแนะนำสินค้าจากความสนใจของลูกค้า เป็นต้น

Targeting 

กำหนดเป้าหมายกลุ่มลูกค้าได้อย่างแม่นยำ ซึ่งช่วยให้ Marketplace Online สามารถสื่อสารและนำเสนอสินค้าและบริการได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การแบ่งกลุ่มลูกค้าตามความสนใจ การแบ่งกลุ่มลูกค้าตามพฤติกรรมการซื้อ เป็นต้น

Fraud Detection

 รูปแบบการตรวจจับการทำธุรกรรมที่ผิดปกติ เช่น การทุจริต การฉ้อโกง เป็นต้น ซึ่งช่วยให้ Marketplace Online สามารถปกป้องลูกค้าและทรัพย์สินของ Marketplace Online

Customer Service 

เราสามารถนำข้อมูลที่ได้ทั้งหมดมาช่วยปรับปรุงการบริการลูกค้า เช่น การตอบคำถามลูกค้า การแก้ไขปัญหาให้กับลูกค้า เป็นต้น ซึ่งช่วยให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดีจาก Marketplace Online 

และนี่ก็คือความหมายของฐานข้อมูล Big Data ว่ามีประโยชน์และใช้งานในด้านระบบ Marketplace Online ได้ยังไงบ้าง หลักๆ ก็จะเป็นการประเมินถึงคุณภาพของระบบการจัดการทั้งหมด ดูองค์รวมเพื่อประมวลผลออกมา รวมถึงการนำไปใช้ปรับปรุงการดูแลลูกค้า ว่ามีข้อควรปรับตรงไหนบ้าง หรือควรแก้ไขอะไรยังไงต่อไปในอนาคตได้

โปรแกรมบัญชี AccCloud เป็นโปรแกรมที่มีคุณสมบัติเหล่านี้ครบถ้วน เป็นโปรแกรมระดับ ERP แต่ราคาระดับโปรแกรมบัญชีทั่วไป เหมาะกับองค์กรขนาดกลาง-ใหญ่ เข้าชมบริการเพิ่มเติมได้ที่ โปรแกรมบัญชี AccCloud

ธุรกิจ Drop Shipping ขายของแบบไม่สต็อคสินค้า ดียังไง

การเริ่มต้นทำธุรกิจหรือการขายของออนไลน์ในปัจจุบัน มีธุรกิจเติบโตขึ้นมากมาย และวิธีการขายก็เพิ่มขึ้นตาม เช่นการเป็นนายหน้าสินค้า หรือการทำ Affiliate ที่เป็นการเสนอสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ส่วนตัวของเราเอง หรือการทำธุรกิจแบบ Dropship ที่ไม่ต้องสต็อคสินค้าก็สามารถเริ่มขายได้เลย

การขายแบบ Drop Shipping (ดรอปชิป) คืออะไร

รูปแบบธุรกิจออนไลน์ที่ร้านค้าไม่ต้องสต็อกสินค้าเอง แต่อาศัยซัพพลายเออร์เป็นผู้ดำเนินการจัดส่งสินค้าให้กับลูกค้าโดยตรง เมื่อลูกค้าสั่งซื้อสินค้าจากร้านค้า ระบบจะแจ้งคำสั่งซื้อไปยังซัพพลายเออร์ จากนั้นซัพพลายเออร์จะดำเนินการจัดส่งสินค้าให้กับลูกค้า โดยร้านค้าจะทำหน้าที่การตลาดและขายสินค้าเท่านั้น

ข้อดีของธุรกิจ Drop Shipping

  • ไม่ต้องลงทุนสูง ในการทำธุรกิจ Drop Shipping ไม่จำเป็นต้องมีสินค้ามาสต็อกไว้เป็นจำนวนมาก จึงไม่จำเป็นต้องใช้เงินทุนก้อนใหญ่ในการเริ่มต้นธุรกิจ
  • มีความเสี่ยงต่ำ เนื่องจากไม่ต้องลงทุนสูง จึงมีความเสี่ยงต่ำในการขาดทุน
  • ทำธุรกิจได้ง่ายและประหยัดเวลา เพียงเปิดร้านค้าออนไลน์และโพสต์สินค้าที่ต้องการขาย ก็สามารถสร้างรายได้ได้ทันที
  • ไม่ต้องกลัวสินค้าไม่ตรงปก เนื่องจากสินค้าจะถูกส่งตรงจากผู้ผลิตหรือผู้จัดจำหน่ายไปยังลูกค้าโดยตรง จึงมั่นใจได้ว่าสินค้าจะตรงกับที่โฆษณาไว้แน่นอน

ข้อควรระวังของธุรกิจ Drop Shipping

  • ต้องแข่งขันกับร้านค้าอื่นๆ จำนวนมาก เนื่องจากเป็นธุรกิจที่ได้รับความนิยม จึงมีร้านค้า Drop Shipping จำนวนมากเกิดขึ้น
  • อาจมีปัญหากับผู้ผลิตหรือผู้จัดจำหน่าย หากผู้ผลิตหรือผู้จัดจำหน่ายไม่สามารถจัดส่งสินค้าได้ตามกำหนด อาจส่งผลเสียต่อร้านค้า

สรุปแล้ว ธุรกิจ Drop Shipping เป็นธุรกิจที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มต้นธุรกิจออนไลน์ โดยมีข้อดีหลายประการ เช่น ไม่ต้องลงทุนสูง ความเสี่ยงต่ำ ทำธุรกิจได้ง่ายและประหยัดเวลา อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการควรศึกษาข้อมูลและวางแผนให้ดีก่อนเริ่มต้นธุรกิจ เพื่อให้ประสบความสำเร็จ

โปรแกรมบัญชี AccCloud เป็นโปรแกรมที่มีคุณสมบัติเหล่านี้ครบถ้วน เป็นโปรแกรมระดับ ERP แต่ราคาระดับโปรแกรมบัญชีทั่วไป เหมาะกับองค์กรขนาดกลาง-ใหญ่ เข้าชมบริการเพิ่มเติมได้ที่ โปรแกรมบัญชี AccCloud

เปิดโอกาสทางธุรกิจในยุคดิจิทัล แค่ใช้โปรแกรมบัญชี ERP กับแพลตฟอร์มขายสินค้าออนไลน์

ปัจจุบัน ธุรกิจการขายของออนไลน์มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว เพราะคนยุคใหม่เปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิตมาซื้อของออนไลน์มากขึ้น และมีแนวโน้มการซื้อหน้าร้านน้อยลง เจ้าของธุรกิจจึงต้องเปลี่ยนแนวทางการขายจากหน้าร้านค้าเพียงอย่างเดียว มาขายของผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์เพื่อให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้ซื้อ ซึ่งมักนิยมซื้อ-ขายของผ่าน Lazada และ Shopee เป็นหลัก และยังมีแพลตฟอร์มอื่นๆ ที่เริ่มได้รับความสนใจอย่าง Tiktok และ Line My shop ด้วย

การที่ธุรกิจต้องปรับตัวมาขายออนไลน์ย่อมส่งผลต่อการบริหารจัดการร้านค้าไม่น้อย เพราะมีความซับซ้อนในการจัดการ เช่น การลงสินค้า อัพเดตราคา การดูแลสต็อก และรับออเดอร์ซื้อขาย รวมถึงการจัดส่ง วิธีที่ดีที่สุดที่ช่วยจัดการความยุ่งยากเหล่านี้ก็คือการเลือกใช้โปรแกรมบัญชี ERP ของ AccCloud ซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มร้านค้าได้ง่ายๆ ในไม่กี่ขั้นตอบ

โปรแกรมบัญชี ERP กับแพลตฟอร์มขายออนไลน์

การเชื่อมต่อโปรแกรมบัญชี ERP กับแพลตฟอร์มขายออนไลน์มีประโยชน์มากมาย เหมาะกับผู้ประกอบกิจการขายของออนไลน์ทุกคน ไม่ว่าจะมีสินค้ามากหรือน้อยก็ไม่ต้องกังวลกับจัดการคลังสินค้า เพราะตัวระบบเชื่อมโยงกับร้านค้าได้ง่าย ไม่ยุ่งยาก เรามาดูกันว่า โปรแกรมบัญชี ERP ของ AccCloud สามารถช่วยเหลือในการบริการจัดการร้านค้าได้ยังไงกันบ้าง

  • ตรวจสอบสต็อกสินค้าง่ายดาย

การเชื่อมต่อโปรแกรมบัญชี ERP ของ AccCloud กับแพลตฟอร์มขายออนไลน์จะช่วยให้เราสามารถตรวจสอบสต็อกสินค้าได้ตลอด ช่วยให้จัดการปรับจำนวนสต็อกง่าย เช็คสินค้าที่ใกล้จะหมดหรือหมดแล้วได้ทุกเวลา หากร้านค้ามีสินค้าตัวไหนหมดก็จะรู้ได้ทันที

  • ช่วยคำนวณบัญชีจากการขายสินค้า

โปรแกรมบัญชี AccCloud เพิ่มประสิทธิภาพในขายสินค้าด้วยการจัดการบัญชี ช่วยคำนวณรายรับและรายจ่ายจากการขายสินค้าได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว ซึ่งช่วยลดเวลาและค่าใช้จ่ายในการดำเนินการธุรกิจ

  • ช่วยวิเคราะห์พฤติกรรมผู้ซื้อ

ข้อดีที่มากกว่าการทำบัญชีของโปรแกรมบัญชี AccCloud คือ ช่วยติดตามและวิเคราะห์ข้อมูลของลูกค้าได้อย่างง่ายดาย เช่น ประวัติการสั่งซื้อ แนวโน้มในการซื้อ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของสินค้าได้อย่างตรงจุดมากขึ้น

  • เพิ่มความถูกต้องทางการทำบัญชี

ช่วยลดความผิดพลาดทางบัญชี เนื่องจากข้อมูลการขายและการเงินถูกบันทึกอัตโนมัติ แตกต่างจากการทำข้อมูลตัวเลขด้วยตัวเอง ระบบ ERP จะทำให้สามารถรายงานผลการเงินได้อย่างถูกต้อง ไม่ต้องกังวลว่าตัวเลขบัญชีจะไม่ตรงกัน

  • วิเคราะห์และปรับกลยุทธ์การขายง่ายขึ้น

การเชื่อมต่อโปรแกรมบัญชี ERP จะช่วยให้สามารถปรับตัวตามความต้องการของตลาดได้รวดเร็ว ตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าและเพิ่มยอดขายอย่างครบถ้วน เพิ่มโอกาสทางธุรกิจได้เป็นอย่างดี

หากใครต้องการเพิ่มประสิทธิภาพการขายสินค้าออนไลน์ผ่าน Shopee, Lazada, Tiktok  หรือ Line การเชื่อมต่อระบบบัญชี ERP กับแพลตฟอร์มขายออนไลน์เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าสำหรับธุรกิจที่ต้องการเติบโตในยุคดิจิทัลนี้มาก เพราะจะช่วยให้สามารถบริหารธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพและทันสมัย เปิดโอกาสในการเพิ่มยอดขายและความสำเร็จในด้านการตลาดออนไลน์ที่เติบโตอย่างรวดเร็วในปัจจุบันและอนาคต

ซอฟต์แวร์ erp ตัวช่วยจัดการธุรกิจเชื่อมต่อบน “แพลตฟอร์มร้านค้าออนไลน์”

การทำธุรกิจ E-commerce หรือร้านค้าออนไลน์มีการการเติบโตและพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว ช่วยให้สามารถซื้อขายสินค้าต่างๆ ได้ตลอดเวลาแบบ 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะกลุ่มร้านค้าที่ได้มีการขายบนแพลตฟอร์มใหญ่ๆ เช่น Shopee Lazada และ Tiktok ที่จะมีลูกค้าสั่งของตลอดเวลา ทำให้ต้องมีการจัดการข้อมูลที่เป็นระบบชัดเจน ป้องกันความคลาดเคลื่อนหรือความผิดพลาดไม่ให้เกิดขึ้น แต่บางทีเราก็อาจจะตกหล่นไปบ้าง ทำให้เกิดผลตอบรับในแง่ลบจากผู้ซื้อได้ จะดีกว่าไหมถ้าเราหันมาใช้ตัวช่วยจัดการธุรกิจที่จะทำให้การจัดการธุรกิจของคุณง่ายกว่าที่เคยด้วย “ระบบซอฟต์แวร์ erp ”

ระบบซอฟต์แวร์ ERP คืออะไร 

ERP ย่อมาจาก Enterprise Resource Planning ซึ่งหมายถึง ซอฟต์แวร์ระบบการเงินที่จะช่วยจัดการวางแผนของการจัดการรูปแบบธุรกิจของคุณ เช่น การผลิต การขาย การสั่งซื้อ การบริการ การเงิน ฯลฯ รวมไปจนถึงกระบวนการต่างๆ ภายในองค์กรธุรกิจ โดยจะมีการรวบรวมข้อมูลทั้งหมดไว้ภายใน Database หลัก และฝ่ายอื่นๆ ภายในองค์กรสามารถเข้าถึงข้อมูลเหล่านี้ได้ ทำให้วางแผนการทำงานได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ

ประโยชน์จากการใช้งานระบบซอฟต์แวร์ ERP

การเลือกใช้ระบบ ERP ภายในองค์กรนั้นมีข้อดีมากมาย ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับรูปแบบของธุรกิจที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้

  • การเก็บข้อมูลการทำงานทั้งหมดจากแต่ละฝ่ายภายในองค์กรไว้ในระบบเดียวกัน (Database)
  • การแชร์ทรัพยากรภายใน Database ให้แต่ละฝ่ายสามารถเข้าถึงข้อมูลและทำงานร่วมกันได้
  • ป้องกันการทำงานซ้ำซ้อน จากแต่ละหน่วยงาน ด้วยระบบอัพเดตข้อมูลแบบ Real-Time
  • ลดต้นทุนการใช้เครื่องมือช่วยเหลือที่มากเกินความจำเป็น
  • ช่วยให้มองเห็นถึงภาพรวมขององค์กรทั้งหมด ทำให้จัดการวางแผนได้ง่ายขึ้น

การเชื่อมต่อระบบซอฟต์แวร์ ERP กับร้านค้าออนไลน์

อย่างที่เรารู้ๆ กันว่าการทำร้านค้าออนไลน์ E-commerce ต้องมีการเก็บข้อมูลที่เยอะมากๆ และมีกระบวนการทำงานที่เรียกว่าซับซ้อนเลยก็ว่าได้ ทั้งข้อมูลสินค้า ข้อมูลลูกค้า ข้อมูลการสั่งของจาก Partner ข้อมูลคำสั่งซื้อ และอีกเยอะแยะมากมาย ทำให้ปัจจุบันมีการหันมาใช้ระบบ ERP ร่วมกับแพลตฟอร์มร้านค้าออนไลน์มากขึ้น ช่วยรองรับการทำงานแบบรอบด้านได้ดี เช่น เก็บข้อมูลสินค้า คำสั่งซื้อ และข้อมูลของลูกค้า ทำให้รูปแบบการทำงานโอกาสเกิดข้อมผิดพลาดน้อยลง และจัดการดูแลข้อมูลได้ง่าย เมื่อเทียบกับการทำแบบแยกแพลตฟอร์มที่อาจเกิดการพิมพ์คำสั่งซื้อซ้ำหรือข้อมูลคำสั่งซื้อตกหล่นได้ ทำให้เกิดผลลัพธ์เชิงลบตามมา

การเตรียมความพร้อมก่อนใช้ระบบซอฟต์แวร์ ERP

ก่อนที่จะเริ่มใช้ระบบ ERP กับแพลตฟอร์มร้านค้าออนไลน์ ควรเริ่มศึกษาข้อมูลก่อนว่าธุรกิจจะเข้ากับการทำงานของระบบ ERP ได้ไหม และถ้ามั่นใจแล้วว่าจะทำการใช้ระบบ ERP ก็ต้องมีการเริ่มเตรียมความพร้อมก่อนเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มร้านค้าออนไลน์ ดังนี้

  1. การทำความเข้าใจเกี่ยวกับ Database 
  2. จัดการวางแผนขั้นตอนการทำงาน
  3. ตรวจสอบปัญหาที่พบในขั้นตอนการทำงาน (ก่อนใช้ระบบ ERP)
  4. เลือกใช้ระบบ ERP ที่เหมาะสมและตอบโจทย์ที่สุด

เลือกใช้โปรแกรม Acccloud ERP เป็นตัวช่วยจัดการธุรกิจของคุณ

โปรแกรมบัญชี Acccloud ERP เป็นโปรแกรมที่ช่วยให้ธุรกิจขสามารถจัดระเบียบการทำบัญชีได้อย่างสะดวกและรวดเร็วมากขึ้น เหมาะสำหรับธุรกิจขนาดกลาง-ใหญ่ และมีคุณภาพเทียบเท่าโปรแกรม ERP ในเกรดราคาประหยัด เข้าถึงได้ง่าย แต่คุณภาพดีเยี่ยม พร้อมเชื่อมต่อระบบช่องทางการขายออนไลน์

โปรแกรมบัญชี Acccloud ERP เชื่อมต่อแพลตฟอร์มอะไรได้บ้าง

การเชื่อมต่อระบบ ERP กับแพลตฟอร์มร้านค้าออนไลน์ทำได้หลายช่องทาง และช่วยให้รูปแบบการทำงานสะดวก ง่ายขึ้น ไม่ยุ่งยาก แล้วมีแพลตฟอร์มไหนบ้างที่โปรแกรมบัญชี Acccloud ERP เชื่อมต่อได้บ้าง มาดูกัน

แพลตฟอร์มร้านค้าออนไลน์

ดึงข้อมูลยอดขายจาก ร้านค้าออนไลน์ และเชื่อมโยงอัตโนมัติ มายังโปรแกรมบัญชี AccCloud ERP ผู้ใช้งานสามารถเลือกดูสถานะของคำสั่งซื้อบนแพลตฟอร์มร้านค้าออนไลน์ ได้ตลอดเวลาที่จะมีการเชื่อมโยงระบบ และสามารถ Update ข้อมูล Stock สินค้าย้อนกลับไปยังคลังได้เช่นเดียวกัน โดยไม่ต้องไปบันทึกข้อมูลซ้ำอีกรอบนึง ได้แก่

  • Lazada
  • Shopee 
  • Tiktok 
  • LINE MyShop

แพลตฟอร์มบริการขนส่งสินค้า

ระบบสามารถทำการเรียกรถขนส่ง โดยทางเราไปเชื่อม API กับ shippop.com ซึ่งสามารถเรียกรถขนส่งสินค้าจากระบบ AccCloud ได้ เช่น ไปรษณีย์ไทย, Flash, Kerry, DHL และ Lalamove 

ซอฟต์แวร์ ERP เป็นเครื่องมือสำคัญที่สามารถช่วยยกระดับประสิทธิภาพการดำเนินงานขององค์กรให้ดีขึ้นได้ องค์กรใดที่กำลังมองหาแนวทางในการปรับปรุงการดำเนินงาน ควรพิจารณาการนำซอฟต์แวร์ ERP เข้ามาช่วยงาน

ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ โปรแกรมบัญชี Acccloud ERP เพิ่มเติมได้ที่ https://acccloud.tech/ และสำหรับใครที่สนใจสามารถ ทดลองใช้โปรแกรม Acccloud ERP ได้ฟรี!! ก่อนตัดสินใจซื้อ >> คลิก

ลงทุนอะไรดี ให้มีกำไร ปี 2566

การลงทุนในประเทศไทยในปี พ.ศ. 2566 มีความหลากหลายมากขึ้น โดยในภาคส่วนต่างๆ มีศักยภาพในการเติบโตสูง ประเทศไทยเป็นเศรษฐกิจที่มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว ซึ่งมีโอกาสมากมายสำหรับนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ หรือแม้กระทั่งบุคคลทั่วไป 

การลงทุนนั้นไม่มีข้อกำจัด เรื่องของเงินว่าต้องลงทุนที่เท่าไหร่ และเราจะมาแนะนำการลงทุนต่างๆ ที่สามารถสร้างกำไรได้ ด้วยการยกตัวอย่างการลงทุนด้วยเงิน 10,000 บาทสามารถทำอะไรได้บ้างและผลกำไรจะออกมาเป็นยังไง แต่อันดับแรกที่เราต้องรู้เลยคือการลงทุนต้องพิจารณาจากอะไรบ้าง

ข้อควรพิจารณาก่อนเริ่มการลงทุน

  1. เงินลงทุนต้องเป็นเงินเย็น 

เงินเย็นเป็นเงินที่ได้จากการเหลือเก็บ เป็นเงินที่ไม่จำเป็นต้องนำไปใช้จ่ายอะไร แต่ถ้ายังมีพัธที่อาจจะต้องใช้เงินตรงนี้แนะนำให้อย่าพึ่งลงทุนจะดีกว่า

  1. ต้องมีเงินสำรอง

ก่อนจะลงทุนควรมีเงินทุนสำรองไว้ เพราะเราไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นบ้าง ถ้ามีเงินสำรองใช้จ่ายเพียงพอ ค่อยมาลงทุน และจะได้ไม่เสี่ยงไปกู้เงินหรือยืมเงินคนอื่นอีกด้วย

  1. ลงทุนไปเพื่ออะไร

หาเป้าหมายในการลงทุน เพื่อที่จะได้จัดสรรปันส่วนของการลงทุนออกได้อย่างถูกจุด และตรงความต้องการ เช่น ใช้ซื้อบ้าน ซื้อรถ หรือไว้จัดงานแต่งงาน

  1. ต้องการใช้ระยะเวลาเท่าไหร่

คำนวณระยะเวลาที่ต้องการลงทุน เพื่อนำมาพิจารณาว่าเราควรเลือกลงทุนกับอะไร ลงทุนระยะสั้นหรือระยะยาว จะได้ไม่ลงทุนผิดประเภท

  1. พร้อมรับความเสี่ยงไหม

เพราะทุกการลงทุนมีความเสี่ยง ทั้งเสี่ยงที่จะได้กำไรสูง และเสี่ยงที่จะขาดทุนจนหมด จึงควรคิดและพิจารณาให้ดีก่อนว่าต้องการลงทุนไหม และลงทุนกับอะไรที่เราจะรับความเสี่ยงได้ไหว

แล้วถ้ามีงบ 10,000 บาทควรเลือกลงทุนอะไร

ต้องทำความเข้าใจก่อนว่าด้วยเงิน 10,000 บาท อาจจะยังไม่สามารถทำกำไรให้ผลตอบแทนที่สูงมาก ได้ แต่อาจจะทยอยเก็บผลกำไรสะสมไว้ เมื่อเวลาผ่านไปจึงค่อยนำเงินจากการทำกำไรนั้น มารวมเป็นก้อนใหญ่แล้วนำไปลงทุนเพิ่ม เพื่อให้ได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้น ตามวิธีต่างๆที่เราจะแนะนำต่อไปนี้

  1. พันธบัตรรัฐบาล 

หรือพันธบัตรออมทรัพย์ ออกโดยกระทรวงการคลัง เป็นตราสารหนี้ เพื่อกู้เงินจาก ปชช. โดยส่วนใหญ่จะมีอายุ 3-10 ปี ดอกเบี้ย 2% สูงสุด 4% แล้วแต่ระยะเวลา ยิ่งนานยิ่งมีดอกเบี้ยสูง ผลตอบแทนจะไม่สูงมาก แล้วแต่อายุของพันธบัตร และดอกเบี้ยที่ได้จะถูกหักด้วยภาษี ณ ที่จ่าย 15% 

  1. ออมทอง

การออมทองเป็นการลงทุนที่ง่าย เพราะสามารถลงทุนหลักร้อยหลักพันได้ ตามเงื่อนไขของร้านทองที่เราเลือก และเมื่อออมทองจนครบกำหนด ก็สามารถถอนทองออกมาได้ หรือเลือกฝากไว้กับร้านก็ได้ แต่ต้องเลือกร้านให้ดี และเลือกร้านที่เงื่อนไขเหมาะสมกับเรา แต่ก็จะมีความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ ทั้งผลดีและผลเสียเพราะต้องวัดจากราคาทองว่าอยู่ขาขึ้นหรือขาลง

  1. การซื้อหุ้น

ด้วยงบ 10,000 บาทก็สามารถลงทุ้นกับการซื้อหุ้นได้ แต่ก็จะมีตัวเลือกให้น้อยมากตามงบ และการซื้อขายหุ้นก็ยังมีคาธรรมเนียมและภาษีที่จะถูกหักอีก เพราะฉะนั้นการลงทุนซื้อหุ้นจะไม่เหมาะสำหรับการเร่งรีบซื้อมา ขายไป เพราะอาจทำให้ขาดทุนหนัก อาจใช้วิธีซื้อทิ้งไว้ เพื่อให้ได้รับผลกำไรจากเงินปันผล หรือส่วนต่างของราคาได้ แต่การลงทุนกับหุ้นจำไว้ว่ามีความเสี่ยง 10-20% เลยที่จะขาดทุน ถ้าจะลงทุนกับหุ้นจริงๆ ขอแนะนำให้ศึกษาเกี่ยวกับหุ้นที่เราจะซื้อให้ดีก่อนตัดสินใจ

  1. ฝากเงินในบัญชี

วิธีนี้เหมาะสำหรับคนที่ไม่อยากเสี่ยงขาดทุน ให้นำเงินไปฝากกับธนาคารที่ให้ดอกเบี้ยสูงๆ ปัจจุบัน มีการฝากทั้งแบบออมทรัพย์ดิจิทัล และเงินฝากประจำ ที่สามารถรับดอกเบี้ยได้มากถึง 3% ต่อปี ถ้านำเงินไปฝากไว้และไม่ถอนออกมาเลย เช่น

  • ฝากเงิน 5,000 บาท รับดอกเบี้ย 3% ครบ 1 ปี ได้รับดอกเบี้ย 150 บาท
  • ฝากเงิน 5,000 บาท รับดอกเบี้ย 3% ครบ 1 ปี ได้รับดอกเบี้ย 300 บาท
  • ฝากเงิน 5,000 บาท รับดอกเบี้ย 3% ครบ 1 ปี ได้รับดอกเบี้ย 450 บาท
  1. การลงทุนสร้างกิจการ

การลงทุนค้าขายหรือทำกิจการเล็กๆ ของตัวเอง เป็นสิ่งที่สามารถเลือกทำตามความถนัดหรือความต้องการของตัวเองได้ เป็นนายตัวเอง ไม่ว่าจะเป็น

  • กิจการขายอาหาร ขนม เบเกอรี่่
  • กิจการขายเสื้อผ้า ของใช้ต่างๆ
  • ซื้อแฟรนไชส์ที่เราสนใจ
  • บริการดูแลสัตว์เลี้ยง 

แต่การเป็นนายตัวเองก็แลกมากับความเหนื่อยที่มากขึ้น เพราะต้องลงทุน ลงแรงเอง และต้องสู้ด้วยความขยัน ถ้าเราทำได้ถูกทางผลตอบแทนก็จะดีตาม


และที่เราได้ยกตัวอย่างมาให้อ่านนี้ก็คือสิ่งที่ควรรู้ก่อนการลงทุน ว่าถ้าเรามีเงินแค่ 10,000 บาท เราควรที่จะลงทุนไหม และควรที่จะลงทุนกับอะไรเพื่อให้ เกิดผลประโยชน์สูงสุดสำหรับเรา

5 ขั้นตอนการทำธุรกิจออนไลน์

 
 
 
  1. วางแผนและกลยุทธ์การตลาด

  2. ก่อนอื่นกิจการจะต้อง วิเคราะห์ก่อนครับว่า จุดเด่นของกิจการคืออะไร คู่แข่งเป็นใคร กล่าวคือ ต้องวิเคราะห์ SWOT ของกิจการเสียก่อน หลังจากนั้น วิเคราะห์ Segment , Target และ Position ของสินค้าตนเองในตลาด

  3. วางแผนการดำเนินการ

  4. ในขั้นนี้คือการร่าง Business Model และ แผนการดำเนินงานในแต่ละขั้นตอน เช่นแผนการติดต่อ supplier การหาลูกค้า การหาชื่อ website ที่สอดคล้องกับกิจการ

  5. พัฒนา Web site

  6. ในขั้นตอนนี้ เจ้าของกิจการจะทำการพัฒนา Web site ให้มีความเข้าถึงง่าย ใช้งานง่าย มีความน่าเชื่อถือ และ มี function ครบ และมี การโปรโมชั่นเป็นระยะ

  7. พัฒนา Content Optimization

  8. หรือ การทำ SEO ในขั้นตอนนี้ คือการทำให้ Website ขึ้นหน้าแรกใน Google ** ในขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนที่ยากที่สุดในทุกขั้นตอนของการทำ Online Business

  9. อย่าลืมทำ Offline Marketing ควบคู่กันไปด้วย

  10. เช่นการโปรโมท ร้านด้วยวิธีการอื่นๆ

** ท่านทราบหรือไม่ว่า การใช้โปรแกรมบัญชี AccCloud ทันที ที่มีการลงทะเบียน Web site กับเรา

 

โปรแกรมบัญชี AccCloud มี Function ช่วยในการโปรโมท Website ของท่านให้อยู่อันดับที่สูงขึ้นใน Google ด้วยเช่นกัน 

 

ถ้าต้องการเข้าใช้งานโปรแกรมบัญชี Accloud สามาเข้าใช้งานได้ >>ที่นี่<<

 
บทความที่เกี่ยวข้อง 

 

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับอุปกรณ์ Barcode Reader / Scanner

เรามารู้จักกับเครื่องอ่านบาร์โค้ดกัน ว่ามันคืออะไร และทำงานกันอย่างไร อุปกรณ์ Barcode Scanner ที่ใช้กับเครื่องขายหน้าร้าน (Point of sale ; POS) คืออุปกรณ์ที่ใช้ในการอ่านรหัสแท่ง (รหัส BarCode) มีทั้งรูปที่เป็นสายต่อกับ computer และ ไร้สาย โดยเครื่องอ่านจะทำหน้าที่ส่งค่าที่อ่านได้ไปยัง Software ที่ฝังตัวกับเครื่องเพื่อทำการแปลสัญญาณให้เป็นข้อมูลที่สามารถอ่านเข้าใจได้

 
โปรแกรมบัญชี AccCloud.co
 
 

ตัวอุปกรณ์ Barcode จะทำการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ computer ด้วย Port แป้นพิมพ์ หรือ อุุปกรณ์ Interface ที่เรียกว่า Wedge

หลักการทำงาน ตัวอุปกรณ์ Barcode จะยิงแสงตรงไปตัดกับรหัสแท่ง และวัดจำนวนของแสงที่ทะท้อนกลับ (โดยธรรมชาติแล้วแสงสีดำจะดูดแสง ทำให้แสงทะท้อนมีไม่เท่ากับแสงที่ยิงไป แสงสะท้อนจะถูกรับด้วยอุปกรณ์รับแสงและจะแปลงมาเป็ฯข้อมูลโดยผ่านตัวถอดรหัสโดยซอฟต์แวร์ Barcode ที่ติดมากับเครื่อง หลังจากแปลงสัญญาณแลวข้อมูลที่ได้จะถูกส่งต่อไปยัง Computer อีกหน

สำหรับคำถามที่มักมีถามเข้ามาเป็นประจำว่าเครื่องอ่าน Barcode สามารถเชื่อมต่อกับโปรแกรมบัญชี AccCloud ได้หรือไม่ คำตอบคือได้นะครับ สามารถเชื่อมโยงกันได้ ในการอ่าน Barcode ของสินค้า 

Education Template

Scroll to Top