วิวัฒนาการด้านการจัดเก็บฐานข้อมูล

ถ้าพูดถึงการดำเนินชีวิต หรือ การตัดสินใจต่างๆในโลกยุคปัจจุบัน สิ่งที่หนีไม่พ้นคือ การนำข้อมูลในอดีตที่ถูกต้องมาช่วยเป็นปัจจัยในการตัดสินใจว่าเราจะดำเนินการเรื่องต่างๆ หากเป็นในสมัยก่อน การนำข้อมูลในอดีตอาจจะไม่ได้มีความหมายมากสักเท่าไหร่ เนื่องจาก การเก็บข้อมูลต่างๆยังมีน้อยและ คู่แข่งของเราก็ไม่ได้แตกต่างกับเรามากนัก ดังนั้นในเมื่อสิ่งแวดล้อมทั้งทางด้านการแข่งขัน และ ทางด้านเทคโนโลยีไม่ได้มีความแตกต่าง การดำเนินธุรกิจในสมัยก่อน ทุกๆคนจึงมีความเท่าเทียมกัน แต่แข่งกันที่การจัดการและ การนำมาใช้ซึ่งทรัพยากรของเราเท่านั้น

 

ในโลกยุคปัจจุบันจะแตกต่างกับในสมัยก่อนอย่างสิ้นเชิง ข้อมูลจัดเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ในปัจจุบันข้อมูลส่วนบุคคล หรือ องค์กรแทบจะถูกจัดเก็บตั้งแต่เราตื่นนอนมาตอนเช้า หรือ เราเข้าทำงานในวินาทีแรกเลยทีเดียว ดังนั้น ข้อมูลเหล่านี้จะถูกประมวลผลและนำไปใช้ในการตัดสินใจได้อย่างเป็นจำนวนมาก ดังนั้นองค์กรที่รู้จักวิธีการใช้ของข้อมูล และ องค์กรที่มีระบบจัดเก็บข้อมูลที่ดีและทันสมัยย่อมได้เปรียบในแง่โครงสร้างการบริหารกว่า องค์กรที่ไม่มี

 

ลักษณะของการจัดเก็บข้อมูลแบบดั้งเดิม เราจะใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า File Base หรือเก็บข้อมูลในรูปแบบไฟล์ เช่น dBase, Foxbase หรือ MS Access เป็นต้น ซึ่งมีข้อจำกัดสูงมากและ ไม่ยืดหยุ่นต่อการขยายตัวและการเติบโดในอนาคตของธุรกิจ รวมถึงยังมีความเสี่ยงต่อการ โดน Virus หรือ ไฟล์เสียไม่ว่าจะเป็นปัจจัยภายในเช่น มีคนไปลบไฟล์ทิ้ง หรือ Harddisk เสีย หรือ ปัจจัยภายนอกเช่น เครื่องที่เก็บข้อมูลเสีย ไฟซ๊อต หรือ น้ำท่วมเป็นต้น

 

การจัดเก็บข้อมูลแบบยุคกลาง (Client Server) คือ การติดตั้งระบบฐานข้อมูลไว้เครื่อง Server และ การติดตั้งโปรแกรมไว้แต่ละเครื่องที่จะใช้งานโดยต่อสายแลนเพื่อใช้งานระบบ ในวิธีนี้ไม่แตกต่างจาก Filebase เลยคือมีความเสี่ยงซึ่งกลายคลึงกัน และ การเข้าถึงฐานข้อมูลยังมีช่องโหว่จำนวนมากอีกด้วย นอกจากนั้น หากธุรกิจที่มีสาขาจำนวนมาก จะใช้ระบบแบบนี้ไม่ได้ เนื่องจากปัญหาเรื่องเทคโนโลยีการส่งถ่ายข้อมูลแบบดั้งเดิมจะไม่เหมาะสมกับการใช้งานผ่านเครือข่าย internet ทำให้องค์กรต้องไปเช้าสัญญาณ lease line ซึ่งราคาแพงมหาศาลมาใช้ในองค์กร

 

การจัดเก็บข้อมูลแบบยุคปัจจุบัน (Cloud Server) แบ่งเป็น Public Cloud และ Private Cloud กล่าวคือการใช้งาระบบผ่าน Cloud Service รองรับผู้ใช้ได้จำนวนมากๆ พร้อมกับรายการจำนวนมากเช่นเดียวกัน ไม่มีปัญหาเรื่องความเร็วในการใช้งาน เพราะใช้เทคโนโลยี แบบใหม่และมีการ update ตลอดเวลา รวมถึง การแก้ไขระบบผู้ใช้งานจะแทบไม่รู้สึกอะไร ไม่ต้องรอให้มีการ Remote ไปติดตั้งเสียเวลาเป็นวันๆ การ update จะใช้เวลาเพียง ไม่เกิน 5 นาที ทุกเครื่องผู้ใช้งานจะได้ระบบใหม่ในทันที และด้วยระบบ Cloud Server นั้น ระบบฐานข้อมูลได้ถูกแยกออกไปตามประเภทการใช้งานจำนวนมาก ดังนั้น ด้วยจำนวนข้อมูลที่สามารถรองรับได้มหาศาล รวมถึงความเสถียรและ ความถูกต้องของระบบจึงมีมากกว่าระบบแบบดั้งเดิม

 
 

ในอดีต จนถึงปัจจุบันคงปฏิเสธไม่ได้ว่า รากฐานขององค์กรด้านการผลิตในแง่ข้อมูลจะหนีไม่พ้นข้อมูล 3 ส่วนด้วยกันคือ ข้อมูลด้านบัญชีการเงิน (ซื้อ ขาย จ่าย รับ ลูกหนี้ เจ้าหนี้ ) ด้านสินค้าวัตถุดิบ และ ด้านการผลิตและสูตรต่างๆ ดังนั้น การจัดเก็บข้อมูลทั้ง 3 มิตินี้จึงนับเป็นสิ่งที่สำคัญที่จะต้องใช้ระบบที่ครอบคลุมกระบวนการทำงาน และมีความทันสมัยต่อการเปลี่ยนแปลงของสังคม (เช่นการใช้ระบบ Cloud เข้ามาช่วยในการทำงาน)

 

โปรแกรมบัญชี AccCloud.tech เป็นระบบที่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนองกับการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้และ ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของสังคมในอนาคตเช่นเดียวกัน

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Education Template

Scroll to Top